วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ระหว่างอ่านสอบ เจอ 複合動詞เลยขอมารวมไว้หน่อย

ก่อนเริ่ม  อยากบอกว่าจริงๆแล้ว複合動詞ถูกใช้บ่อยมาก เพียงแต่เราไม่ได้สังเกตมันเท่านั้นเอง!
いじめられている君へ
คาบ Reading 
1.竜巻は理由もなく働き回り、人がいる場所に迫ります。
2.「相手といい関係を作り、損なわないようにしなければ」と信じ込んでいませんか
3.周りも一生懸命でおれもやればやるほど自信がついて、どんどんのめり込んだ
4.その反省からも言うけど、少しでも嫌なことがあれば自分だけで抱え込むな。
5.戦場で銃を突きつけられたことが何度もあったけど、一番怖かったのは、少年兵だって。
6.そして、16歳まで生き延びてください。
7.しょっちゅうランドセルを投げられるから2回買い替えたし、お金も取られました。
8.「転んでもただでは起きない」という精神を植えつけてくれました。
9.後で冷静になって「死ななくてよかった」と思いつつ、同時に「苦しみは続くんだ」と落ち込みました
10.親に隠れて包丁を握り、ぼーっと考え込む。ぼーっとมาให้เห็นในบทความ หลังจากที่ได้ดูจาการเขียนเรื่อง外国人
11.君も、ちゃんとケンカをしようよ。ケンカをすると、自分も痛む。でもちゃんと人と向き合える
12.それは、君のちっぽけな優越感と引き換えに失ってもいいものなのか。
13.いじめられている友達の顔も思い浮かべてごらん。
14.あなたの声に耳を傾けている人はきっといますから。
15.自分が巻き込まれたくないからと、保身のために黙っていたい気持ちは分かります。
16.いじめっ子に立ち向かうのは怖い?
17.帰り道に神社の境内で待ち伏せて、みんなで一斉にかかってこてんぱんにやっつけました。
18.ボランティア活動をしたり、お年寄りに席を譲ったり、困っている人に手をさしのべることも償いのひとつ。

หลังจากรวมมาแล้วเลยรู้ว่าเยอะมากจริงๆ
รอบหน้า ถ้ามีโอกาส จะลองนำคำเหล่านี้ไปใช้ดูบ้าง ^^

เครื่องบินจะคกละคร๊าบบบ

ความเดิมครั้งแรกพร้อมแก้ไขในสิ่งทีอยาก
สิ่งแรกที่รู้สึกได้จากการอ่านคือ ฉันหล่อไปนะ  さ กว่าโค้กอีก (โอ้วว) ดังนั้น ขอแก้ไปพร้อมกันเลย

飛行機
わたし:ああ、おおはよう。
友だち:えっ、どうしてここに?
わたし:そのことなんだけど。わたし(ね)7時ぐらい家を出て、飛行機は10時だったの。10時の飛行機に乗る予定だったの。エアポートリングで行ったんだけど、全然間に合わなくて飛行機に乗り遅れたの
友だち:えっなんで??
わたし:わかんない。渋滞なんかじゃいないんだけど故障なんかだったのかな。2時間ぐらい止まっていて、飛行機に間に会わなかったの。乗り遅れたの。
友だち:えっじゃ、大変だったちゃん。
わたし:そうそう、そう思ったんだけど。しようがなく、家に帰って来て、テレビをつけて、ニュース見たんだ。
友だち:で??
わたし:その飛行機が、Asia Pacific oceanなんか落ちちゃってさ。だからね、間に合わなくて、よかったって思ってんの。
เปลี่ยนหมด その飛行機が墜落してしまったんだ。飛行機に乗り遅れてよかったと思うの。
友だち:だから今こんなに幸せなんだ。
わたし:こんなに幸せって言うか。これはもし、間に合って行っちゃったらさ、もうここにいないよ。あの飛行機に乗っていたら、もう死んでいただろう。
友だち:いや、いないほうがいいだよね。

お互いの爆笑

あの飛行機に乗っていたら、もう死んでいただろう。
เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในอดีต

ถ้าเป็นรอบหน้า ขอหล่อน้อยกว่านี้หน่อย และใช้คำได้ดี จะเยี่ยมมาก

เมื่อความลับถูกเปิดเผย

ความเดิม เมื่อครั้งแรกเจอ เริ่มจาก หัวล้าน (วาวว)
ปัญหาที่เจอเลยก็คือ เล่าไงก็ไม่สนุกซักกะที ให้เล่าเป็นภาษาไทยให้สนุก ก็ดันมีคำไม่สุภาพปนลงไปซะนี่ ซึ่งตอนนั้นก็ได้พบว่า ที่มันสนุกในภาษาไทย ก็เพราะเราไปใส่คำพูดไม่สุภาพบรรยายความ มันเลยขำออก แต่ถ้าให้อธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้ว อย่าว่าให้สนุกเลย ให้เข้าใจ ยังแอบเหนื่อย (ฮ่าๆ)

はげ

聞いて、聞いて、実は私武君と付き合ってること、知ってるのかな。形成する前に、ねすごいぶさいで前にも付き合わなかったんだけど武さんがそんなことを知っちゃって。あのう。。。高校時代の写真見られちゃってさあ。(อ่านแล้วงงหนัก สรุป อย่ากพูดอะไรอ่ากนกธร)だけどそのときね、武が怒っちゃうかなと思ったんだけど、実はさ「いいっていいって」。だから、何でだろうと思ったら、もう一過振り向いたらね、格好いい武君はもうはげになっちゃって。「何で何で」って聞いたら「あ、実ははげなんだよ」

ตอนนี้มาอ่านแล้ว คอมเม้นตัวเองคำเดียวเลย "มึน" (ฮ่าๆๆๆ) คือ ไปไม่ถูกเลย เหมือนว่าเรายังเรียบเรียงคำพูดได้ไม่ดี แล้วเอาคำพูดเหล่านั้นมาต่อๆกัน ทำให้คนฟัง ถ้าไม่เห็นเหตุการณ์ ต้องเข้าใจยาก หรือไม่เข้าใจแน่ๆ และ けど เยอะมาก (โอ้ววว) อีกเรื่องที่แอบเห็น ฉันเป็นผู้หญิงที่โหดมาก ผู้หญิงใช้ さ (เถื่อนจิงๆ)
หลังจากที่ได้ดูตัวอย่างจากในห้อง แล้วถ้าให้หยิบออกมาเอง อยากลองเล่าดูใหม่แบบนี้

聞いて、聞いて、私は形成したこと、知ってるでしょ。あのね、実はそのこと、たけし君にずっと秘密にしてたの。でもね、一昨日彼は家に遊びに来たのよ。でね、高校時代の写真見られちゃったの。そのときは、武が怒っちゃうかなと思ったんだけど、彼は(男の声で)「そんなこと気にしなくて、いいのに。実はさ、俺もずっと秘密にしてたことがあるんだ。」そう言って、格好よかった武君はなんと自分の髪の毛に手を持ってつるって髪の毛を取ったの。そしたら、彼の頭もつるつるぴかぴかだったのよ。私はそれを見て、びっくりしたんだけど。まあこれからは、お互い同士の秘密になるって言う。(にっこり)
なんと แสดงอารมณที่ตัวเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิด
自分の髪の毛に手を持ってつるって髪の毛を取ったの。そしたら、彼の頭もつるつるぴかぴかだったのよ。 ตรงนี้ชอบมากเลยขอดัดแปลงมาใช้ มันชัดมากจิงๆ


タスク2 外国人

ความเดิมอันแรก

わたし:昨日ですねー、わたしはね、ホテルに行っていたんです。そこにこんなことが起こったんですよ。
ダー:何のことですか?
わたし:えーとですね。同じソーファに二人のサラリーマンが座ってたんです。一人は新聞を読んでいたんです。もう一人は暇な感じで、あっちこっち見てたんです。そこに暇そうなサラリーマンが外国人を見かけたんです。で、その外国人が地図を持っていて、道を迷っているような感じでした。その二人は目にあったって、そのサラリーマンが気がついたら、すごく怖がっているようです。外国人がサラリーマンの方に歩いて来て、道を聞こうとしました。
ダー:それで?
わたし:あのう、サラリーマンがもう一人のサラリーマン、新聞を読んでいるサラリーマンに近づいて、一緒に新聞を読む格好をしました。
ダー:えー。
わたし:その外国人はそれを見て「えー」って言って、怒っているような顔をしました。
ダー:それは悪いですねー。
まあ、それはそのサラリーマンは日本語しかしゃべれないかもしれないので。。。

ダー:しょうがないですねー

ตอนแรกที่เห็นการ์ตูนสี่ช่องก็ทำให้นึกถึงโคะโบะจังที่ทำตอนปีหนึ่ง แล้วปีนี้คำสั่งไม่ใช่การเขียนอีกต่อไป แต่เป็นการพูด พอฟังแล้วถอดเทปออกมาก็บอกได้เลยว่า เอ่มมาก ครั้งแรกที่อัดเสียงทำผิดคำสั่ง เพราะใช้เป็น普通形ทั้งหมด เลยต้องอัดกันใหม่ หลังจากที่ลองอ่านดูแล้ว พบว่ามีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่อง (มาอ่านย้อนหลังตอนนี้จะเห็นชัดกว่า เพราะ เหมือนเป็นคนละคนกันแล้ว จำอารมณ์เดิมไม่ได้ ทำให้เห็นข้อผิดพลาดได้ชัดเจนขึ้น)
1. การใช้คำสุภาพในนี้ของตัวเองดูเหมือน無理やりไปหน่อย เพราะんですมันเยอะมาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ
2. แยกผู้ชายสองคนนี้ออกจากกันไม่ได้ งงมากว่าใครเป็นใคร เพราะเราอธิบาายว่าเป็นサラリーマンทั้งคู่ พอเนื้อเรื่องยาวมากๆ เลยงงว่าคนไหนเป็นคนไหน
3.ไม่รู้ว่าจะบรรยายภาพการมุดลงมาดูหนังสือพิมพ์ของผู้ชายคนกำลังจะถูกถามทางยังไง เลยใช้
新聞を読んでいるサラリーマンに近づいて、一緒に新聞を読む格好をしました。
ซึ่งมันไม่ได้อารมณ์ อะ (วัยรุ่นเซง 5555)

คราวนี้ ถ้าเปลี่ยนได้ วัยรุ่นอยากเปลี่ยนชีวิตตนเองหลายจุดเลยทีเดียวนะคะ มาเริ่มกัน อันนี้คือที่วัยรุ่นได้ลองแก้รอบแรก หลังจากที่ได้ไอเดียหลังอ่านตัวอย่างการบรรยายของคนญี่ปุ่น
わたし:昨日ですねー、わたしはね、ホテルに行っていたんです。そこにこんなことが起こったんですよ。
ダー:何のことですか?
わたし:えーとですね。同じソーファに二人のサラリーマンが座っていました。一人は新聞を読んでいたんです。もう一人はぼーっとあたりを見回していました。そこで、ふと、道を迷っているような外国人と目があってしまいました。その外国人は地図を持って近寄ってきました。しかし、そのサラリーマンは英語が話せないようでした。もう逃げられる所はないと思った彼は、隣のサラリーマンが広がっている新聞の中に隠れてしまいました。
ダー:えー。
わたし:その外国人は彼を見て、何でそんなことをするのかわからなく、驚いていました。

ครั้งแรกหลังจากที่ดู ได้คำต่างๆที่ดูน่าสนใจมาใส่ 
ぼーっと、ふと、近寄ってきました
คำพวกนี้พอลองมาใส่ดูแล้ว ทำให้ได้อารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น ทำให้เห็นภาพมากกว่าการใช้คำธรรมดา
もう逃げられる所はないと思った彼は、隣のサラリーマンが広がっている新聞の中に隠れてしまいました。
การขายคำด้านหน้าคำนาม เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก อันนี้ชอบจริง และจะพยายามใช้ (อิอิ)
隣のサラリーマンが広がっている新聞の中に隠れてしまいました。
ส่วนประโยคนี้ รู้สึกแก้ไขปัญหาตอนทำครั้งแรกได้ดีมากเลยค่ะ เพราะว่า 新聞の中に隠れてしまいました มันดูเข้ามากจริงๆ
พอการเล่าเรื่องสั้นลง ปัญหาเรื่องการสับสนด้านตัวละครก็ดูน้อยลงไปจะรู้สึกว่า ไม่ต้องอธิบายอย่างอื่นก็เข้าใจได้อย่างไม่สับสน

สำหรับครั้งนี้ พอได้ลองอ่านแล้ว พบว่า อยากแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้คำสุภาพแบบ 無理やり
起こったんですよ。 เป็น 起こりましたよ。
一人は新聞を読んでいたんです。เป็น  一人は新聞を読んでいました。

ส่งท้ายค่ะ
ใช้พวก してしまいましたนี่ดูเห็นภาพความรู้สึกได้เยอะกว่าจริงๆด้วย (ตื่นเต้น)

หวังว่าสักวัน จะพูดได้ดีๆแบบที่แก้แล้วสองรอบมั่ง (สู้!)

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ตอบเมลที่โฮสส่งมาให้แล้วเจอ ประโยคนี้ห่ะ
ปัญหาคือ อ่านแล้วรู้นะ แต่ให้ใช้เอง เหมือนจะไม่ได้

たくさんの困難も乗り越えてきてると思います。

เมื่อค้นคว้าแล้ว ตะมาเขียนต่อไป

では、

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นำทางฉันที BRKอยู่ไสน้อ

นั่งเคลียร์การบ้านกันชิ้นต่อชิ้นห่ะ

チュラ大文学部の道順
チョンナンシ駅からチュラロンコーンのBRKベルの行き方を説明します。BTSと大学のシャトルバスを利用します。時間は合計約30分ぐらいかかります。

1 まず、BTSチョンナンシ駅でサイアム駅までの切符を買ってください。チョンナンシ駅からサイアム駅まで25バーツかかります。

2 BTSに乗車するときNATIONAL STADIUM 方向のBTSに乗車してください。サイアム駅はチョンナンシ駅から3つ目です。

3 サイアム駅に到着したら、6番の出口から駅を出ます。

4 正面ピンクのKARMART右脇の高架橋を進みます。右側に「 MKレストラン」が見えたら、その近くの階段を下りてください。

5 バス停でピンクの1番のミニバスに乗車してください。これは大学のシャトルバスです。(注意点:4番じゃなくて、1番ですよ)

6 BRKのビルはこちらです。(写真を載せる)。右側にミニセブンイレブンが見えたら、すぐ下車してください。

念のため、バスに乗ったとき、運転手に「アックソーン」と言っておいて下さい。それは文学部の意味です。又、この紙を運転手に見せ、下の言葉を指で指してください。 

ไปคณะอักษรศาสตร์ค่ะ/ครับ

7 問題があったら、こちらに連絡してください。

マム 084-xxx-xxxx


หลังจากที่ทำจนเสร็จ(แก้กันสามรอบ)และอ่านคำแนะนำจากเพื่อน พบว่า การเขียนเป็นลำดับทำให้ดูง่ายกว่า
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากงานนี้คือ การใช้ภาษาที่ดูเป็นทางการมากขึ้น(ที่นิยมใช้ในภาษาเขียน) และการรู้จักสังเกตเส้นทางที่เราเดินอยู่ทุกวัน และการมี注意点 ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

แปะเอาไว้ เพราะชอบใจมาก
正面ピンクのKARMART右脇の高架橋を進みます
乗車する
下車する
到着する
ひたすらまっすぐ ชอบมากแต่ไม่ได้ใช้ เพราะ ไม่ได้เดิน อิอิ

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เล่ายังไงให้สนุก (แอบอัพในห้องเรียน)

外人:親は怒った。そして、子供をしかった。
日本人:怒った親は子供をしかった。
ทำให้ได้อารมณ์มากกว่า

จะมีการใช้連体修飾มาขยายคน จะทำให้ได้อารมณ์มากกว่า

Meta language
เป็นสิ่งที่เสริมให้ผู้ฟังตามมาได้ ว่า ตอนไหนเป็นตอนสำคัญ

ねえねえ聞いてよ
すごい
その後、大変なことが起こったんだって
ちゃって
大ピンチ ตายแน่
何って言ったと思う?
オトマトペ つるつるぴかぴか
でしょう
わけ

自分が乗るはずだった飛行機に乗り遅れた
乗ろうと思っていた飛行機が墜落したんだ。

if cause 3
乗っていたら、死んでいたかもしれない。
ไม่ได้เกิดทั้งสองอย่าง ฮ่าๆ

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

น้องไก่ ที่ไม่มี ม
新しいパソコンを買ってきました。これからは簡単にいろいろなことが載せられるでしょう(笑)
今日紹介したいのはこのブロックの登場人物でございます。テディベアで名前はガイ(ไก่)です。
どうぞよろしくお願いします。